ขั้นตอนติดตั้งรางน้ำฝน

เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ติดตั้งว่ามีความพร้อมหรือไม่ ตรวจดูที่เชิงชายหรือไม้ปิดนกที่จะติดรางน้ำว่ามีความแข็งแรง ยึดแน่น ถ้าต้องมีการรื้อรางน้ำเก่าที่ผุผัง ให้ระวังตอนรื้ออย่าให้กระทบกับโครงสร้างหลังคาเดิม จากนั้นให้ทำการวัดระดับน้ำระหว่างหัวท้ายของรางน้ำ แล้วทำการปรับระดับความลาดเอียง ก่อนจะทำการตีเต๊าเพื่อสร้างแนวเส้นที่จะติดตั้งรางน้ำ แล้วจึงทยอยติดตั้งตะขอแขวนราง ให้มีระยะห่างตามที่คู่มือผลิตภัณฑ์บอกซึ่งแต่ละรุ่นจะมีระยะไม่เท่ากัน โดยทั่วไปจะเว้นห่างกันประมาณ 60-80 เซนติเมตร แล้วจึงวางรางน้ำมาล็อกกับตะขอแขวนราง หากเป็นรางน้ำไวนิลที่ต้องมีการประกอบรางน้ำก็ใช้ซิลิโคนช่วยเชื่อมประสานระหว่างรอยต่อ จากนั้นก็ให้ติดตั้งท่อน้ำกับผนังหรือเสาด้วยตัวยึด ตรวจดูว่าแข็งแรง ยึดท่อกับอุปกรณ์ได้แน่นสนิทก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ สุดท้ายอาจจะตรวจสอบการติดตั้งรางน้ำด้วยการมองดูภาพรวมว่ารางน้ำได้ยึดติดกับไม้เชิงชายได้ระดับ ไม่มีลักษณะแอ่นงอ แล้วให้ลองทดสอบด้วยการฉีดน้ำขึ้นหลังคาแล้วดูว่ามีการระบายน้ำเป็นปกติ

เลือกรางน้ำฝนอย่างไรดี

จะเลือกรางน้ำฝนจากอะไรดี อาจจะลองเลือกพิจารณาดังนี้ ราคารางน้ำและราคาค่าติดตั้ง น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่หลายคนให้ความสำคัญมากที่สุด อาจจะลองสำรวจราคาจากร้านติดตั้งรางน้ำเพราะต้องคิดรวมไปถึงค่าแรงติดตั้ง หรือถ้าอยากติดตั้งเองก็ไปดูราคารางน้ำสำเร็จรูปก่อนก็ได้ ความคุ้มค่า วัสดุแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานต่างกัน ถ้าอยากซื้อครั้งเดียวจบ อาจจะยอมเสียเงินซื้อที่เกรดดีหน่อย แม้ว่าจะแพงกว่าแต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า รวมทั้งเรื่องการการดูแลรักษาที่แตกต่างกันในแต่ละวัสดุ พื้นที่หลังคา ลองดูพื้นที่หลังคาว่ามีขนาดใหญ่มากน้อยแค่ไหน อาจจะเลือกขนาดรางน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ซึ่งในตลาดจะมีขนาด 4 นิ้ว 5 นิ้ว 6 นิ้วให้เลือกก็อาจจะเลือกที่ 5-6 นิ้ว และถ้าหลังคามีระยะยาวมากๆต้องมีรูระบายน้ำหลายจุดกระจายกันเพื่อให้ระบายน้ำได้ทัน การติดตั้ง รางน้ำบางประเภทถ้ามีอุปกรณ์ครบก็สามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ช่างหากเป็นหลังคาที่อยู่ต่ำหรือเป็นพวกหลังคาโรงจอดรถ อย่างไรก็ตามหากเป็นบ้านสองชั้นควรเรียกใช้ช่างจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัย พื้นที่ติดตั้ง โดยปกติแล้วรางน้ำฝน จะติดตั้งกับเชิงชายหรือไม้ปิดนกโดยการใช้ตะปูหรือน็อต แต่ถ้าไม่ได้ติดเชิงชาย รางน้ำบางประเภทก็ใช้แขวนกับจันทันได้เลย เช่น รางน้ำสังกะสี ความสวยงาม ควรเลือกประเภทของรางน้ำและสีสันของรางน้ำให้เข้ากันกับสไตล์ของบ้าน รางน้ำบางประเภทออกแบบมาได้สวยเหมือนบัวบ้านที่มีหลายรูปแบบให้เลือก

ทำไมต้องติดตั้งรางน้ำ

สมัยก่อนบ้านจะติดตั้งรางน้ำไว้สำหรับรองน้ำฝนเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน แต่จริงๆแล้วรางน้ำมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด อาทิ ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำฝนและสิ่งสกปรกจากหลังคาไหลลงมาเปื้อนผนัง หน้าต่าง ประตู วงกบ และบริเวณรอบๆบ้าน ช่วยยืดอายุการใช้งานหน้าต่างประตูของบ้านและป้องกันไม่ให้ผนังซีดเร็วซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาบ้าน  ช่วยไม่ให้น้ำรั่วและไหลย้อนเข้ามาจากทางหลังคา ช่วยป้องกันน้ำฝนไม่ให้กระเด็นไปยังบ้านข้างเคียง ช่วยรักษาหน้าดินและสนามหญ้า รวมทั้งป้องกันต้นไม้และบ่อปลาไม่ให้โดนน้ำฝนโดยตรง ช่วยป้องกันปัญหาดินทรุดซึ่งอาจจะทำให้บ้านพังหรือทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ ดังนั้นถ้าพอจะมีงบประมาณสักหน่อย เราขอแนะนำให้คุณติดตั้งรางน้ำดีกว่า รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ